กรดไหลย้อน คือการไหลย้อนของสารคัดหลั่งในกระเพาะอาหารไม่ว่าจะเป็นกรดหรือแก็ส กลับไปที่หลอดอาหาร ทำให้หลอดอาหารเกิดการระคายเคือง

เรามาสังเกตุอาการของโรคนี้พร้อมกับวิธีรักษาด้วยแพทย์แผนจีนกันเลยคะ

https://www.facebook.com/watch/live/?ref=watch_permalink&v=1692730591116362

คลิกรับชม LIVE ให้ความรู้ เรื่องกรดไหลย้อนได้ค่ะ

ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุการเกิด
1. การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือใช้ยาบางชนิด เช่น ยาหอบหืด ทำให้ความดันหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารลดลงต่ำหรือเปิดมากกว่าปกติ
2. ความผิดปกติในการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้อาหารไหลลงช้า หรือ อาหารไหลย้อนขึ้นจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารนานกว่าปกติ
3. ความผิดปกติในการบีบตัวของกระเพาะอาหาร มักจะเกิดในคนชอบทานอาหารไขมันสูง หรือช็อกโกแล็ต ส่งผลให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง อาหารค้างอยู่ในกระเพาะนานกว่าปกติ เพิ่มโอกาสให้อาหารไหลย้อนกลับสู่หลอดอาหารมากขึ้น
4. พฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เช่น รับประทานอาหารเสร็จแล้วนอนทันที ทานอาหารไม่ตรงเวลา หรือรับประทานอาหารอิ่มมากเกินไป
5. ภาวะความเครียด ทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากขึ้น
6. ในคนที่เป็นโรคอ้วน จะมีความดันในช่องท้องสูง
7. หญิงตั้งครรภ์ จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้หูรูดหลอดอาหารอ่อนแอ
    หรือ มดลูกขยายมากขึ้นเพิ่มแรงกดต่อกระเพาะ

วิธีสังเกตว่าเป็นกรดไหลย้อนมั้ย
1. แสบร้อนกลางหน้าอก หลังทานอาหารมื้อหนักๆ
2. เรอเปรี้ยว มีน้ำขมๆ เปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาในปาก
3. ท้องอืด แน่นท้องคล้ายอาหารไม่ย่อย
4. คลื่นไส้ อาเจียนหลังทานอาหาร
5. จุกแน่นหน้าอก รู้สึกเหมือนมีก้อนติดที่ลำคอ
6. หอบหืด ไอแห้ง เสียงแหบ
7. เจ็บคอเรื้อรัง

สาเหตุของกรดไหลย้อนในมุมมองแพทย์จีน
1. การทานอาหารที่ไม่เหมาะสม การทานรสจัดเกินไป ทานอาหารไขมันสูง หรือในคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ จะส่งผลกระทบต่อม้ามและกระเพาะ ลมปราณติดขัด ลมปราณกระเพาะจะไหลย้อนขึ้นข้างบน
2. ความเย็นกระทบกระเพาะอาหาร อาจจะเป็นความเย็นจากภายนอก หรือจากการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น หอยนางรม ผักสดที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุก แตงกวา แตงโม แตงไทย สาลี่ เป็นต้น เมื่อ
ความเย็นเข้าสู่กระเพาะมาก จะทำให้ อินหยางของกระเพาะไม่สมดุลย์ เกิดความชื้น ความชื้นจะไปชะลอการไหลเวียนของเลือดและพลังลมปราณ ส่งผลให้ลมปราณกระเพาะไหลขึ้นข้างบนแทนที่จะลงข้างล่าง
3. ภาวะเครียด และวิตกกังวล ส่งผลให้ลมปราณตับติดขัด เกิดความร้อนในร่างกาย ไปกระทบอินของกระเพาะ เมื่ออินกระเพาะพร่อง จะส่งผลให้พลังลมปราณพร่องด้วย จะส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนที่ของลมปราณม้ามและกระเพาะอาหาร ทำให้ม้ามย่อยอาหารและลำเลียงอาหารไปเลี้ยงอวัยวะส่วนบนได้ไม่ดี ส่วนการขับเคลื่อนอาหารลงล่างของกระเพาะอาหารก็ไม่ดีไปด้วย
4. สภาวะที่เป็นโรคเรื้อรัง ร่างกายอ่อนแอมาก ส่งผลต่อม้าม เมื่อลมปราณม้ามอ่อนแอ ทำให้ระบบย่อบอาหาร และระบบเผาผลาญไม่ดี จะมีอาการผะอืดผะอม ท้องอืด ท้องผูกหรือท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน

วินิจฉัยแยกกลุ่มอาการ
1. ไฟตับลุกโชน
    อาการ :  มีอาการกรดไหลย้อน ร่วมกับอารมณ์แปรปรวน เครียด วิตกกังวล ปากขม คอแห้ง
2. ความเย็นพร่องของม้ามและกระเพาะอาหาร
    อาการ :  มีอาการกรดไหลย้อน ร่วมกับท้องอืด แน่นท้อง เรอ อาเจียน
3. ความร้อนชื้นอุดกลั้น
    อาการ :  มีอาการกรดไหลย้อน ร่วมกับอาการแสบร้อน แน่นหน้าอก เรอเปรี้ยว
4. เลือดและลมปราณติดขัด
    อาการ :  มีอาการกรดไหลย้อน ร่วมกับเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่สดชื่น

การรักษาด้วยแพทย์จีน
1. ฝังเข็ม เพื่อบำรุงม้าม และกระเพาะอาหาร ช่วยระบายความร้อน และของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดการคลายตัวของหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหาร ทำให้กรดไหลย้อนลดลง
2. ยาจีน
3. กดจุด เพื่อปรับสมดุลลมปราณกระเพาะอาหาร
   จงหว่าน   : อยู่ระหว่างสะดือกับลิ้นปี่
                    : อยู่บริเวณกระเพาะอาหาร ช่วยปรับสมดุลลมปราณส่วนกลางร่างกาย
   จวี้เชวี่ย     :  อยู่ระหว่างจงหว่านกับกึ่งกลางหัวนม
                    :  ลดอาการอาเจียน เรอเปรี้ยว ปวดท้อง
   จู๋ซานหลี่  : อยู่ใต้ขอบล่างด้านนอกของกระดูก patella ลงมา 3 ชุ่น
                    : ช่วยปรับระบบย่อย
   เน่ยถิง       : อยู่รหว่างง่ามนิ้วชี้กับนิ้วกลางเท้า คนท้องห้ามกด
                    : ลดไฟในกระเพาะ ลดกรด
   ไท่ชง       : อยู่ระหว่างร่องกระดูกนิ้งโป้งและนิ้วชี้เท้า คนท้องห้ามกด
                   : ช่วยคลายเครียด ลดความร้อนภายในตับ

การดูแลรักษา
1. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ อาหารรสจัด อาหารไขมันสูง พวกของมัน ทอด
2. งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะบุหรี่มีสารนิโคตินทำให้หรูดหลอดอาหารอ่อนแอ ส่วนแอลกอฮล์ทำให้หูรูดเปิดออกได้ง่าย
3. รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และรับประทานให้พอดีไม่อิ่มมากจนเกินไป เพราะถ้าทานอิ่มมากจะทำให้หูรูดหลอดอาหารเปิดง่ายขึ้น
4. ไม่ควรนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร ควรรออย่างน้อย 3 ชั่วโมง
5. หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าหรือเข็มขัดที่รัดแน่นจนเกิดไป จะเพิ่มแรงกดตอกระเพาะอาหาร
6. หากิจกรรมทำเพื่อคลายเครียด


เพิ่มเพื่อน